หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เข้าใจ Optimize Title Tag และวิธีใช้งานเพื่อทำให้เว็บติดอันดับ หรือเสียเวลาไปปรับเพิ่มเนื้อหาทุก ๆ วัน แต่ดันลืม Tag ไป
ถ้าเว็บไซต์ของคุณมีทั้งหมด 30 หน้าเว็บเพจ Title Tag ของทุกหน้าจะต้องไม่เหมือนกันเลยซักหน้า ถ้าซ้ำกันคุณจะเสียประโยชน์ในการทำอันดับบน Google ไปเลยในหน้านั้นๆ ที่ซ้ำกันแย่กว่าการไม่ได้ใส่เลยด้วยซ้ำ
เพราะเวลาที่ใช้ Meta Tag ซ้ำกันหลาย ๆ หน้าแน่นอนว่าเว็บเพจแต่ละหน้าจะพูดคนละเรื่องกัน หน้าหนึ่งอาจเป็นโฮมเพจที่ใช้ Keyword
“โครงการบ้านต่างๆ” หน้า Contact us ก็คงจะใช้ Keyword “ติดต่อ…”
แต่ทั้งสองหน้าเว็บเพจนี้กลับมี Title Tag ว่า “โครงสร้างบ้าน บริษัท ขายบ้าน” ปัญหาก็จะเกิดกับหน้า Contact Us ทันที เพราะเนื้อหาของเว็บก็จะไปทาง Title Tag ก็จะไปอีกทาง ทำให้ Google งงไปกันใหญ่
ถ้าเป็น Description Tag ที่เว็บส่วนใหญ่ในโลกนี้ไม่ค่อยให้ความสนใจ ส่วนใหญ่จะเป็น Duplicate กันทุกหน้า หรือไม่ใส่เลย ทำให้ความแรงในการทำอันดับจะน้อยลง เพราะอย่างที่เคยบอกว่า Keyword ควรใส่ทุกๆ ส่วนของเว็บเพจจึงจะทำให้การทำ SEO ได้ผลสูงสุด แต่ถ้าไม่ได้ใช้ Description Tag ก็เท่ากับหายไป เสียประโยชน์ไปส่วนหนึ่ง พอคู่แข่งใช้กัน คุณก็แพ้ทันที
นอกนั้น Description Tag เป็นส่วนที่จำเป็นจะต้องถูกแสดงบนผลลัพธ์การค้นหาบน Google อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าคุณลืมใส่ Desoription Tag แล้ว Google จะตรวจหา Keyword ตามส่วนต่างๆ บนหน้าเว็บเพจนั้น เพื่อเอามาสร้างให้คุณเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะ Google ยังไม่เก่งพอในการสร้าง Description Tag ทำให้สิ่งที่มันสร้างจะออกมาแปลกๆ ทำให้เว็บคุณมีโอกาสในการคลิกจากบน Google น้อยลงไปได้อย่างน่าเสียดาย
การ Optimize Keyword Title Tag
Keyword ต้องนำมาก่อนเป็นอันดับแรกในการเขียน Title Tag เหมือนกับการจะบอกกับ Google ก่อนเลยว่า เฮ้ย! หน้านี้คือเว็บเพจที่พูดถึงเรื่องนี้นะ อย่าคิดไปเป็นอย่างอื่น จากนั้นหา Related Keyword หรือ Niche Keyword มาใส่เพิ่มเข้าไปเพื่อช่วยความแรงในการทำให้ Google เข้าใจเว็บเพจของคุณ เช่น
<title>Photo Software We Have Best Selling Image Software & Image Editing Tools | Visit Us Todayc/title>
ถ้าเป็นเว็บไทย คุณสามารถใส่ Keyword เดียวซ้ำกันได้ถึงสองสามครั้ง เช่น
<title>ขายมือถือ เราคือแหล่งรวมมือถือ เรามีมือถือมากที่สุด</title> หรือ
<title>เราขายบ้าน ซื้อบ้าน รับจำนองบ้าน<title>
แต่ถ้าเป็นเว็บนอกระวังโดนเล่นอันดับตกได้ ปกติถ้าคุณใช้พวก CMS อย่าง WordPress เวลาที่คุณสร้างบทความหรือโพส ส่วน Title ของโพสจะกลายมาเป็น Title Tag ไปโดยปริยาย