ขายของลูกค้าใหม่ ๆ ว่ายากแล้ว แต่ก็ยังต้องขายซ้ำ ๆ ให้ลูกค้าเดิมให้ได้ ยิ่งลูกค้ารักเรา หรือ ติดใจของ ๆ เราคงไม่ยากเลยที่เราออกรุ่นไหนมาใหม่ ก็คงมีคนรอซื้อเต็มไปหมด
อย่างแบรนด์ดังอย่าง Apple เห็นคิวคนต่อแถวรอซื้อไอโฟนแล้วเป็นท้อ ถึงราคาจะแสนแพงขึ้น ตัว max เทพ ๆ เนี่ย ปาไป 65,000 บาท หลายคนยอมจ่าย ถึงจะไม่ได้ซื้อสด เพราะทุกร้านโยนโปรจุใจให้ลูกค้าอยากได้แต่ยังไม่พร้อมซื้อเพียบ ๆ ไหนจะผ่อน 0% ยาว ๆ ไป 36 เดือน หรือเอาเครื่องเก่ามาแลกเครื่องใหม่ได้อีก อย่างของเราเช็คมา ไอโฟน 12 ธรรมดา เอาไปแลกได้เกือบหมื่นนึงเลยนะ ยังไม่รวม On top อีก 2,000 บาท
จากกระแสคนแห่รอคิวไอโฟน 16 กัน เราเลยปิ๊ง ได้ไอเดียไปทำการตลาดต่ออีกแล้ว
ไอเดียการตลาดแบบที่ 1 รักษาลูกค้าเก่า หรือ Customer Retention
ไม่เพียงแต่รักษาลูกค้าเก่าอย่างเดียว กลยุทธ์แบบนี้ยังเรียกลูกค้าอื่นมาเป็นของเราได้อีก ไอเดียแบบนี้จะทำให้ร้านค้ารับเงินไปในอนาคตได้แบบเห็น ๆ และไม่ต้องเหนือ่ยมาทำการตลาด หรือเสียค่าใช้จ่ายหาลูกค้าใหม่ๆ ตลอดเวลา อย่างค่ายโทรศัพท์ใหญ่ๆ จะมีส่วนลดตัวเครื่องราคาเต็ม ถ้าเราใช้เครือข่ายเค้าราคาเป็นพันขึ้นต่อเดือน และกำหนดต้องใช้ไม่ต่ำกว่า 1 ปี ค่าเครื่องแสนแพงนี้จะถูกลงมาได้จนเราพอใจ แต่กัปดักตัวนี้ ก็เป็นตัวมัดฐานลูกค้าของค่ายนั้นไว้เป็นปี ๆ ไอเดียการตลาดแบบนี้จึงเป็นเหมือนการทำสัญญาไม่ให้ลูกค้าหนีไปจากเรา
ไอเดียการตลาดแบบที่ 2 Buy now pay later ขอของไปใช้ก่อนนะแล้วเราค่อยมาจ่าย
ได้รับความนิยมในสังคมยุคใหม่ ระบบเรียกเก็บเงินทีเดียวตอนนี้ถ้าสินค้าราคาสูงก้อคงจะขายได้ยาก หรือขายได้เฉพาะคนพร้อมซื้อมีเงินติดกระเป๋าจริง ๆ แต่ถ้าเราต้องการลูกค้าระดับปานกลาง คนทั่วไป ซึ่งไอโฟนถึงจะมีค่าเครื่องสูงเกินครึงแสน แต่ระบบแบบนี้จะทำให้เราตกลูกค้ากลุ่มนี้มาเป็นของเราได้ การแบ่งชำระ ด้วยการจ่ายผ่านบัตรผ่อน และบัตรเครดิตเอา ช่วยรองรับลูกค้าก่อนแบบ buy now pay later และไม่พลาดหลุดลูกค้าของเราไปให้เจ้าอื่นได้